ร้อยไหม คืออะไร

ช่วยยกหน้าได้จริงหรือไม่

 
 
 

 

ใครอยากหน้าเด็ก วีเชฟ กรอบชัด เข้ารูป ยกมือขึ้น!! เชื่อว่าถ้าหมอถามคำถามนี้ไป ใครๆ ก็ยกมือขึ้นทั้งนั้นครับ เพราะการที่เรามีโครงหน้า กรอบหน้าชัด หน้ากระชับ นอกจากทำให้ดูเด็ก สดใส ยังทำให้เวลาถ่ายรูปนั้น ก็ดูขึ้นกล้อง มั่นใจสุดๆ อีกด้วยไงล่ะครับ

แต่หลายๆ คนอาจจะคิดว่า การที่เราจะแก้ไขใบหน้า ให้กลับมาดูกระชับนั้น จะต้องพึงการทำศัลยกรรม ยกใบหน้า ดึงใบหน้ากันอย่างเดียว แต่ที่จริงแ้วเรามีอีกหลายวิธีที่สามารถดึงหน้า ยกหน้าได้ครับ ซึ่งหนึ่งในวิธีต่างๆ เหล่านั้นก็คือการ ร้อยไหม นั่นเองครับ ว่าแต่ ร้อยไหม เนี่ยต้องทำยังไงบ้าง ไหมที่ใช้ปลอดภัยมั้ย ตกค้างรึเปล่า มาดูกันพร้อมๆ กันเลยครับ

 
 

รู้จัก การร้อยไหม กันก่อน

การ ร้อยไหม คือการนำเข็มที่บรรจุไหมละลายตัวได้ ไว้ข้างในสอดเข้าไปในใต้ชั้นผิว เพื่อหวังผลให้ผิวกระชับ เฟิร์มขึ้นครับ

โดยผิวที่ผ่านการร้อยไหมนั้น จะถูกเกี่ยวขึ้นมาตามแนวทิศทางการวางไหม ที่ถูกออกแบบ และกำหนดไว้ จึงช่วยทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกดึง ส่งผลให้ ใบหน้าบริเวณนั้นตึงขึ้น เข้ารูปมากขึ้น กระชับขึ้น มีความยิดหยุ่นสูงขึ้น ซึ่งคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำการออกแบบแนวการ ร้อยไหม วางไหม โดยพิจารณาจาก ปัญหา โครงสร้างของคนไข้ ทำให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหม ออกมาได้อย่างดีที่สุดครับ

ความเป็นมาของการร้อยไหม

ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการร้อยไหม นี่ต้องย้อนไปไกลสมัยยุค อียิปต์โบราณ เลยครับ

ยุค อียิปต์ โบราณ

ย้อนไปในสมัย 60 ปี ก่อนคริสตกาล ในยุคของ พระนางคลีโอพัตรา พบว่ามีการฝังเส้นไหม เคลือบทองคำ ลงบนใบหน้า เพื่อคงความงาม และอ่อนเยาว์ ว่ากันว่า เป็นหนึ่งใน Beauty Secret ของพระนางคลีโอพัตรา เลยครับ

ยุคสมัยราชวงศ์หมิง

มีการใช้ ไหมเคลือบทองคำ ฝังลงในใบหน้า ร่วมกับการฝังเข็ม โดยเชื่อว่า ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตของ ใบหน้า กระตุ้นความอ่อนเยาว์ ช่วยให้ใบหน้าดูมีออร่า

ค.ศ. 1901

ในปีนี้เอง นายแพทย์ Eugene Von Hollandez แพทย์ชาวเยอรมัน ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดดึงหน้า ยกใบหน้าเป็นครั้งแรก โดยเคสแรกของคุณหมอ คือ ดาราสาวชาวเยอรมัน โดยเทคนิควิธีการผ่าตัดดึงหน้าในครั้งนี้ เป็นแค่เพียงการยกชั้นผิวหนังส่วนบน ขึ้นไปเย็บติดันบริเวณหนังศรีษะเท่านั้น

 

ค.ศ. 1976

มีการค้นพบชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ( Superficial Musculoaponeurotic System ) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ Platysma ที่ยาวตั้งแต่ช่วงใบหน้า จนถึงลำคอ, เนื้อเยื่อพังผืดส่วน Parotid และ กลุ่มกล้ามเนื้อ และพังผืด บริเวณแก้ม ซึ่งจากการค้นพบครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ในการยกกระชับใบหน้า ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า การผ่าตัดดึงหน้าเพียงผิวหนังชั้นบนเท่านั้น

ค.ศ. 1992

นายแพทย์ Gregory L. Ruff ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ค้นพบวิธีการดึงใบหน้า โดยใช้การร้อยไหมก้างปลา แบบทิศทางเดียว ที่ผลิตจากวัสดุ Polypropylene ในการดึงใบหน้าในชั้น SMAS

ค.ศ. 1996

นายแพทย์ Sulamanidze ศัลยแพทย์ชาวรัสเซีย ค้นพบวิธีการดึง ยกใบหน้า ด้วยการร้อยไหมก้างปลา แบบสองทิศทาง โดยเรียกเทคนิคนี้ว่า APTOS ( Anti Ptosis ) Technique ในการยกใบหน้าในชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งถือได้ว่า เป็นแม่แบบของการร้อยไหมยกใบหน้า จนถึงปัจจุบันครับ

 
 

 

รู้จักชนิดของไหม

ชนิดของไหมนั้นแบ่งแยกได้หลายแบบครับ ทั้งแบ่งตามวัสดุ แบ่งตามรูปทรง แบ่งตามตำแหน่งการใช้งาน หมอขอสรุปมาแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายดังนี้ครับ

แบ่งตามวัสดุของไหม

  1. ไหม PDO หรือ Polydioxanone เป็นวัสดุไหมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากไหมที่ใช้ในการผ่าตัด ศัลยกรรม มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดกระบวนการแพ้ เส้นไหมสามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ ภายในระยะเวลา 8-12 เดือนครับ ไหมชนิดนี้ เป็นไหมที่นิยมใช้กันมากที่สุดครับ โดยมีทั้งประเภท เส้นตรง เส้นเกลียว ก้างปลา ไหมเงี่ยงสลัก ครับ

  2. ไหม PCL เป็นวัสดุไหมอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในการร้อย ยกใบหน้าครับ มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดในบรรดาไหมทุกชนิด อยู่ได้นาน 2-3 ปี ละลายสลายไปเองได้ ไม่ตกค้างในร่างกาย

  3. ไหม PLLA เป็นวัสดุไหมที่ละลาย สลายตัวเองได้อีกหนึ่งประเภท ที่นิยมมาใช้ในการร้อยไหมครับ แต่มีข้อเสียคือ เปราะ หักง่ายนั่นเอง ตัวไหมอยู่ได้ 12-18 เดือนครับ

แบ่งตามลักษณะเส้นไหม

 

ไหมเรียบ หรือ ไหมคอลลาเจน

ไหมชนิดนี้จะเป็นไหมผิวเรียบ เส้นเล็ก ครับ มันจะเป็นเข็มปลายแหลม เหมาะสำหรับใช้ในการร้อยผิวชั้นตื้นๆ เพื่อประโยชน์เรื่องของการกระชับผิว ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวฟู อุ้มน้ำครับ

 

ไหมเกลียว หรือ ไหมสปริง

ไหมชนิดนี้ จะใช้เส้นไหม ตั้งแต่ 1 เส้นขึ้นไป นำมาพันรอบๆ แกนเข็มนำครับ โดยส่วนมากมักใช้เป็นไหมประเภท PCL ซึ่งมีประโยชน์ในการกระตุ้นชั้นผิวให้สร้างเส้นใยคอลลาเจน เน้นใช้ในบริเวณที่ต้องการการเติมเต็ม เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา

 
 
 

ไหมก้างปลา

เป็นไหมเงี่ยง ชนิดแรกๆ ที่พัฒนามาจากไหม APTOS ครับ โดยในปัจจุบันนี้จะมีทั้งแบบ ทิศทางเดียว และ 2 ทิศทาง ครับ เป็นไหมที่เกิดจากการนำเส้นไหมเรียบเส้นหนา นำมาผ่านกระบวนการตัดด้วยเลเซอร์ เพื่อให้เกิดเงี่ยงรอบๆ เส้นไหมครับ มีประโยชน์ในการยกกระชับใบหน้า โดยเงี่ยงของไหมจะทำหน้าที่ในการยกที่กล้ามเนื้อชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นหลักในการยกกระชับใบหน้าครับ โดยตัวอย่างของไหม เช่น ไหม V-Lift ครับ

 

ไหมเงี่ยงสลัก ( Molding Cog )

เป็นไหมเงี่ยง ที่พัฒนาต่อมาจากไหมก้างปลาครับ โดยมีข้อได้เปรียบตรงที่เงี่ยงหนากว่า เส้นไหมหนากว่า แข็งแรงกว่า โดยผ่านกระบวนการขึ้นรูปเงี่ยงไหมโดยตรงจากแป้นพิมพ์ และผ่านการหลอมที่ความร้อนจัด และทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว จึ่งทำให้ไหมชนิดนี้มีความแข็งแรง แรงดึง และแรงยกสูง เทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าเลยทีเดียวครับ ตัวอย่างของไหม เช่น ไหม Signature Lift หรือ ไหม MINT Lift ครับ

 
 

ลักษณะของเข็มนำไหม ก็สำคัญนะครับ

สมัยนี้เราจะเห็นเข็มนำไหม มีรูปทรงต่างๆ กัน แต่หมอขออธิบายแยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ครับ เพื่อให้เข้าใจง่าย

 

เข็มปลายแหลม

เข็มแหลม เป็นลักษณะของเข็มนำไหมชนิดแรกๆ เลยที่มีการนำมาใช้ครับ ข้อดีคือ ร้อยง่ายมาก คนไข้รู้สึกเจ็บน้อย ร้อยได้เร็ว เหมาะกับการร้อยไหมเส้นเรียบ หรือ ไหมคอลลาเจน ที่ต้องร้อยในชั้นผิวตื้นๆ ครับ แต่มีข้อเสียคือ มีโอกาสทำลาย เส็นเลือด หรือ โครงสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ง่าย มีโอการเขียวช้ำ ได้ง่ายกว่า ครับ

 

เข็มปลายทู่

เข็มทู่ เป็นลักษณะของเข็มนำไหม ที่มีวิวัฒนาการมาอีกหลายรูปแบบ ทั้งรูปทรงแบบเข็มทู่ธรรมดา เข็มทู่ทรง L Type ทรง W type เป็นต้น โดยมีข้อดีคือ ลดโอกาสการทำลาย เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว ลดโอกาสการเขียวช้ำ ครับ ส่วนข้อเสียคือ ร้อยไหมได้ยากกว่า คนไข้อาจรู้สึกเจ็บกว่า อาจมีอากรบวมได้มากกว่าเข็มแหลมครับ เหมาะสำหรับการร้อยไหมเส้นใหญ่ๆ ที่ต้องใส่ในชั้นลึก เพื่อป้องกันการทำลายโครงสร้างผิวชั้นลึกครับ

 
 
 

 

กลไกการทำงานของไหม

หลัง ร้อยไหม เข้าไปในชั้นผิวแล้ว ไหมจะไปทำอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ

1. ผลทันที

หลังจากที่เราทำการ วางเส้นไหม เข้าไปในชั้นผิวแล้ว เงี่ยงของไหม จะไปทำการยึดกับชั้นเนื้อเยื่อที่เราวางไว้ ทำให้เกิดแรงดึง และทำการเคลื่อนย้ายชั้นไขมัน ชั้นผิว โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นกระเปาะ ให้ถูกเคลื่อนมาไว้ในตำแหน่งที่สูงขึ้น จึงทำให้ใบหน้าดูยก ขอบหน้าดูชัด เห็นผลทันทีว่าหน้าตึงขึ้น วีขึ้น 10-20% หลังทำครับ

2. ช่วง 1 - 6 เดือนแรก

ในช่วง 6 เดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด โดยร่างกายจะกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสตินรอบๆแกนไหม และเงี่ยงไหม โดยปริมาณความหนาของคอลลาเจนในช่วงนี้ จะขึ้นอยู่กับ ขนาดความหนาของแกนไหม ความหนา จำนวนเงี่ยงไหม รวมไปถึง การดูแลตัวเองของคนไข้ในช่วงนี้ด้วยครับ โดยหมอแนะนำการดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมไปถึงการหมั่นทามอยซเจอไรเซอร์ รักษาความชุ่มชื้นของผิว และอาจรับประทานกลุ่ม วิตามิน ซี เสริมร่วมด้วยครับ

3. ช่วง 6 เดือนขึ้นไป

ในช่วง 6-24 เดือนของการร้อยไหม คอลลาเจนที่ได้จากการกระตุ้นการสร้างรอบๆเส้นไหม จะทำหน้าที่เป็นแกนคงความกระชับ และแรงดึงของกล้ามเนื้อใบหน้า และชั้นผิว โดยคอลลาเจนใหม่นี้ จะค่อยๆ กินเนื้อไหมและแทนที่เส้นไหมไปจนหมด โดยในช่วงนี้หมอแนะนำกระตุ้นความแข็งแรงของคอลลาเจน ด้วยการทำกลุ่มเครื่องยกกระชับ จะช่วยคงสภาพความแข็งแรงของคอลลาเจน และช่วยยืดอายุประสิทธิภาพของการร้อยไหมได้ครับ

ร้อยไหมช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ร้อยไหม ไม่เพียงแต่ช่วยยกกระชับ แต่ยังช่วยในเรื่องต่อไปนี้ด้วยครับ

กระตุ้นคอลลาเจน

ถือว่าเป็นหน้าที่หลักๆ ของการร้อยไหมเลยครับ โดยกลไกการทำหน้าที่ของไหม คือจะเข้าไปหลอกร่างกาย ว่าเกิดบาดแผลเล็กๆ ใต้ผิว ( Micro Injuries ) ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยา การซ่อมแซมตนเอง สร้างคอลลาเจนใหม่ มาซ่อมแซมบริเวณที่เกิดบาดแผลครับ

ยกกระชับ ปรับรูปหน้า

การร้อยไหม โดยเฉพาะไหมเงี่ยง หรือ ไหมก้างปลา จะช่วยเรื่องของการยกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดีครับ โดยเงี่ยงของไหม จะทำหน้าที่ คล้ายๆ เสาเข็ม ที่ยึดกับกล้ามเนื้อชั้น SMAS เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า. และให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจนพันรอบแกนไหม เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลัก ในการยกชั้นกล้ามเนื้อใบหน้าต่อไปครับ

เติมเต็ม ร่องลึก

การร้อยไหม โดยเฉพาะ ไหมกลุ่มที่มีลักษณะ เกลียว หรือสปริง ไหมลักษณะนี้จะเหมาะอย่างยิ่งในการ เติมเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ใต้ตา ร่องแก้ม ด้วยลักษณะการทำงานของเส้นไหม ที่มีลักษณะคล้ายสปริง ซึ่งจะดีดตัว ขยายตัว เพิ่มวอลลุ่มให้บริเวณที่ต้องการเติมเต็มในระยะแรก หลังจากนั้นจะทำหน้าที่ในการกระตุ้นคอลลาเจน รอบๆ เกลียวไหม ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นดูฟู เต็มอิ่ม และสภาพผิวดีขึ้นครับ

 
 

ปรับรูปทรงจมูก

การร้อยไหม สามารถปรับรูปทรงจมูกได้ครับ โดยเราจะเรียกว่า การร้อยไหมจมูก นั่นเองครับ โดยจะช่วยให้สันจมูก ดูคมขึ้น เป็นสันมากขึ้น แบบธรรมชาติ. นอกจากนี้ยังเหมาะมากกับการปรับแก้ ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องของ Hump แกนสันจมูก ที่ทำให้สันจมูก ไม่เป็นสันตรงสวยครับ อีกทั้งยังไม่ต้องผ่าตัด ไม่บวม และเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้นครับ

ปรับรูปทรงคิ้ว และ หางตา

การร้อยไหมยกคิ้ว หรือ ร้อยไหมยกหางตา สามารถช่วยในการยกหางคิ้ว ปรับรูปทรงคิ้ว ทำ Foxy Eye ให้ดวงตาดูโฉบเฉี่ยว ดูมีพลังขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ อีกทั้งยังไม่มีแผลผ่าตัด และไม่ต้องการการพักฟื้นอีกด้วยครับ

 
 

ใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม

ปกติแล้ว คุณหมอนิยมใช้ การร้อยไหม ในผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้ครับ

  1. ผู้ที่มีปัญหา รูปหน้า 2 ข้างไม่เท่ากัน

  2. ผู้ที่ทีปัญหา กรอบหน้าไม่ชัด ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย

  3. ผู้ที่มีปัญหา ผิวแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส

  4. ผู้ที่มีปัญหา ขอบหน้าไม่ชัด มีเหนียงใต้คาง

  5. บุคคลทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ที่อยากมีผิวเฟิร์ม กระชับครับ

ร้อยไหม อันตรายหรือไม่

ข้อนี้หมอขอตอบเลยว่า ไม่อันตรายเลยครับ เพราะด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำการร้อยไหม นั้นเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมมาก่อน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติครับ แต่ทั้งนี้ฝากเตือนไว้ซักนิดก่อนร้อยไหมครับ

  1. ความน่าเชื่อถือของผู้ทำการร้อยไหม. หมอขอเตือนว่าควรทำกับหมอที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญในการร้อยไหมนะครับ เพราะว่า การร้อยไหม เป็นหัตถการกึ่งการผ่าตัดเล็กๆ เลย ซึ่งอาจทำให้เกิดผลแทรกซ้อนได้ครับ

  2. พิจารณาความสะอาดของสถานที่ เพราะอย่างที่บอกว่า การร้อยไหม นั้นเป็นหัตถการกึ่งๆ การผ่าตัด ดังนั้นความสะอาดของสถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ นั้นสำคัญมาก รวมไปถึง การให้ยาฆ่าเชื้อหลังทำการร้อยไหม เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนครับ

ร้อยไหม เจ็บมากมั้ย

ขอตอบว่า จะมีอาการเจ็บ แน่นๆ รู้สึกได้บ้างขณะทำการร้อยครับ แต่ทั้งนี้ คุณหมอจะใช้วิธีการแปะยาชา ตามด้วยการฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด และความรู้สึกขณะร้อยไหมให้ครับ

 
 
 

 

รู้จักไหมก้างปลา V-Lift

ไหมก้างปลา V-Lift เป็นไหมชนิดไหมเงี่ยงก้างปลา หรือ ไหม Cutting Barb เป็นไหมที่เงี่ยงเกิดจากการเฉือนแกนไหม ด้วยเลเซอร์ความแม่นยำสูง แบบ 4 ทิศทาง ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะกล้ามเนื้อใบหน้า เพิ่มแรงดึง เพิ่มความยกกระชับ เมื่อเทียบกับไหมก้างปลารุ่นเก่าๆ ครับ

 

จุดเด่นของไหมก้างปลา V-Lift

ไหม Cutting Barb แบบ 4D

ไหมก้างปลารูปแบบใหม่ เงี่ยงไหมรอบทิศทางแบบ 360 องศา เพิ่มพื้นที่ยึดเกาะกล้ามเนื้อใบหน้า เพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับ

เข็มปลายทู่ ไร้อาการบวม ช้ำ

ไหมก้างปลา V-Lift ใช้เข็มนำแบบปลายทู่ ช่วยลดอาการเจ็บ การเขียว อาการบวมช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น

หน้ายกกระชับ ทันใจ

ไหมก้างปลา V-Lift ช่วยยกกระชับใบหน้า เก็บกรอบหน้า เห็นผลลัพธ์ทันใจหลังทำ 20-30% และเต็มที่ที่ 4-8 สัปดาห์

 
 
 

 

รู้จักไหม Signature Lift

ไหม Signature Lift เป็นไหมชนิดไหมเงี่ยงสลัก หรือ ไหม Molding Cog ที่มีความแข็งแรง เส้นไหมหนา เงี่ยงของไหมหนา แรงยกสูง เหมาะสำหรับการยกกระชับหน้า ปรับรูปทรงหน้า ยกร่องแก้ม เก็บผิวที่ไม่ตึงกระชับครับ โดยการร้อยไหม 1 ครั้ง อยู่ได้นานถึง 2-3 ปี เลยทีเดียวครับ

 

จุดเด่นของไหม Signature Lift

ไหมเงี่ยงสลัก

นวัตกรรมไหมเงี่ยง รูปแบบใหม่ เงี่ยงไหมหนา แกนไหมหนา เหนียว ทนทาน แข็งแรง ช่วยเพิ่มแรงยก เหมาะเป็นอย่างมาก สำหรับแก้ไขปัญหารูปหน้า

เทคโนโลยีการผลิต แบบ Molding Pressed

ไหม Signature Lift ผ่านการขึ้นรูปไหม ด้วยวิธี Molding Pressed จากแม่พิมพ์ 3 มิติ ทำให้ได้เงี่ยงไหมที่หนาแข็งแรง กว่าไหมก้างปลาแบบเดิม ถึง 3 เท่า

เข็มปลายทู่

ไหม Signature Lift ใช้เข็มนำแบบปลายทู่ ทำให้หมดกังวลเรื่อง อาการเขียว บวม ช้ำ หลังการร้อยไหม ไม่ต้องพักฟื้น

 
 

ยกกระชับ ปรับรูปหน้า

ไหม Signature Lift เป็นไหมชนิดพิเศษ ที่เหมาะสำหรับแก้ไข ปรับรูปทรง โครงสร้างใบหน้า หรือ ยกกระชับใบหน้า สำหรับผู้ที่ทีปัญหาความหย่อนคล้อย ระดับปานกลางถึงมาก มีปัญหา คาง 2 ชั้น เหนียงใต้คาง

อยู่ได้นาน สูงสุด 3 ปี*

ด้วยเทคโนโลยีการผลิตไหมแบบ Molding Pressed ทำให้ไหม Signature Lift สามารถคงประสิทธิภาพแรงดึง แรงยก ได้นานสูงสุดถึง 3 ปี*

*ระยะเวลา ขึ้นกับปัญหา จำนวนเส้น และการดูแลแต่ละบุคคล

 
 

รีวิว ร้อยไหม Signature Lift

 
 
 

 

รู้จักไหม MINT Lift

ไหมมิ้นท์ หรือ ไหม MINT Lift เป็นไหมเงี่ยงชนิดหนึ่งครับ โดยคำว่า MINT นั้นย่อมาจากคำว่า Minimally Invasive Nonsurgical Thread Lift ซึ่งก็คือการร้อยไหมเงี่ยงสำหรับการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดึงกล้ามเนื้อใบหน้า โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำนั่นเองครับ

โดยไหมมิ้นท์ มีจุดเด่นที่สำคัญคือ การเป็นเงี่ยงชนิดเงี่ยงสลัก หรือ Molding Cog Threrad โดยเงี่ยงของไหมจะถูกหล่อออกมาพร้อมกับเส้นไหม ผ่า่นการขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ 3 มิติ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุด และดีที่สุดในการผลิตเส้นไหมในขณะนี้เลยครับ ทำให้ได้เส้นไหมที่มีแกนไหมหนา เงี่ยงไหมหนา และแข็งแรง ช่วยเพิ่มแรงยก แรงดึงสูงกว่าไหมก้างปลา ที่ผลิตโดยเทคโนโลยี Cutting Barb รุ่นเก่าถึง 5 เท่า เลยทีเดียวครับ

จุดเด่นของ ไหม MINT Lift

เทคโนโลยี Molding Pressed

เทคโนโลยีการขึ้นรูปไหมแบบใหม่ล่าสุด Molding Pressed ซึ่งเป็นการผลิตเส้นไหม พร้อมกับเงี่ยงไหม ผ่านการหล่อขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ 3 มิติ ทำให้ได้เงี่ยงไหมที่หนาแข็งแรง ทนต่อแรงดึงสูง มอบผลลัพธ์ของการปรับรูปหน้ามากกว่าไหมก้างปลารุ่นเก่าๆ ครับ

เงี่ยงไหมแบบ Shark Fin

เงี่ยงไหมลักษณะพิเศษแบบครีบฉลาม แบบ Shark Fin ลิขสิทธิ์เฉพาะไหมมิ้นท์ MINT Lift ช่วยเพิ่มความสามารถ และประสิทธิภาพในการยึดเกาะของกล้ามเนื้อใบหน้า ป้องกันภาวะไหมเคลื่อน หรือ ไหมขาดหลังการร้อยไหม

เงี่ยงไหมแบบ 4D

เงี่ยงไหมเยอะกว่า ก็ยกได้ดีกว่า พิเศษกว่า ด้วยเงี่ยงไหม 4 มิติ 4D 360 องศารอบแกนไหม ( Helical Barb ) เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสกับกล้ามเนื้อใบหน้า เพิ่มแรงดึง เพิ่มแรงยึดเกาะ เพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับปรัรูปหน้าให้มากกว่า

 

แรงดึงสูง 7 นิวตัน

ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและหล่อไหมแบบ Molding Pressed ทำให้ได้เงี่ยงไหม แกนไหมที่หนาแข็งแรง ไม่ต้องใช้เทคนิคการเฉือนแกนไหมแบบไหมก้างปลาที่ผลิตด้วยวิธีแบบ Cutting รุ่นเก่า ทำให้เงี่ยงไหม และแกนไหมรองรับน้ำหนักและแรงดึงได้มากกว่าถึง 7 นิวตัน*

*แรงดึง 7 นิวตัน มากกว่าไหมก้างปลาแบบ Cutting ที่รับแรงดึงได้เพียง 2.6 นิวตัน

Minimal Invasive

ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ The Hourglass Clinic ด้วยการร้อยไหม ออกแบบแนวการวางไหมแบบซ่อนรอยแผลขนาดเล็กเพียง 1-2 มิลลิเมตร ทำให้ไม่มีรอยแผล รอยบุ๋มบนใบหน้า ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ผ่านการรับรองจาก USFDA

ไหมมิ้นท์ MINT Lift เป็นไหมเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการยอมรับ และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา หรือ USFDA ว่ามีประสิทธิภาพในการลดเลือนร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และใช้ในการยกกระชับ แก้ปัญหาโครงสร้างใบหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าครับ

 

รีวิวร้อยไหม MINT Lift

 
 
 

 

เทคนิค THC Lock เพิ่มแรงยกกระชับมากกว่า

เทคนิค THC Lock เป็นเทคนิคพิเศษที่คิดค้นขึันโดย The Hourglass Clinic เท่านั้นครับ โดยปรับปรุงมาจาก เทคนิคการร้อยไหมด้วยวิธี Modified APTOS technic จากสหรัฐอเมริกา จึงช่วยเสริมแรงดึง แรงยกของใบหน้า ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นครับ

โดยรูปแบบของการร้อยไหม ด้วยวิธี THC Lock คุณหมอจะออกแบบแนวการร้อยไหม ในแต่ละแนวให้ไขว้กันเป็น รูปนาฬิการทราย บนใบหน้าของเราครับ ซึ่งจะช่วยเสริมแรงยกซึ่งกันและกัน ตามกฏของฟิสิกส์ ทำให้สามารถยกใบหน้า ปรับรุปหน้าได้ดีกว่า และอยู่ได้นานกว่า การร้อยไหมแบบเดิมๆ ครับ

จุดยกกระชับแนวขมับ

สำหรับยกกรอบหน้าบริเวณกล้ามเนื้่อกราม และยกมุมปาก เก็บร่องน้ำหมาก

จุดยกกระชับเหนือใบหู

สำหรับยกกล้ามเนื้อบริเวณหน้าแก้ม เก็บร่องแก้ม และ เก็บกระเป่าะแก้มส่วนล่างครับ

จุดยกกระชับหลังใบหู

สำหรับเก็บกระปาะแก้ม กรอบหน้า ร่องน้ำหมาก และ เหนียง ให้กรอบหน้าคมชัด เข้ารูปครับ

 

เตรียมตัวก่อนการร้อยไหม

อยากร้อยไหม แนะนำเตรียมตัวดังนี้ก่อนครับ

  1. ปรึกษาแพทย์ ก่อนทำการร้อยไหม เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสม จำนวนเส้นที่ใช้ในการร้อยครับ

  2. แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ ก่อนทำการรักษา

  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮฮลล์ เครื่อดื่มชูกำลัง ชา กาแฟ ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  4. งดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS, Aspirin, Ibuprofen, Ponstan, Diclofenac เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ

  5. งดการรับประทานอาหารเสริมอย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ

  6. งดการ แวกซ์ผิว สครับผิว หรือใช้สารผลัดเซลล์ผิวกลุ่ม AHA กรดวิตามิน A Tretinoin Retinols ทุกชนิดอย่้างน้อย 1 สัปดาห์

ขั้นตอนการร้อยไหม มีอะไรบ้าง

  1. ปรึกษาคุณหมอถึงปัญหาที่ต้องการแก้ หรือ บริเวณที่ต้องการแก้ หรือ บริเวณที่ต้องการร้อยไหม โดยคุณหมอจะประเมินถึงความจำเป็นที่จะต้องทำหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ต้องใช้จำนวนไหมเท่าไหร่

  2. ต่อมาก็จะทำความสะอาดหน้า ก่อนทำการร้อยไหม

  3. ต่อมาแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บอย่างน้อย 30 นาทีครับ

  4. คุณหมอจะทำการฉีดยาชาให้อีกครั้ง เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำครับ

  5. ร้อยไหมเสร็จแล้ว อย่าลืมฟังคุณหมออธิบายวิธีการดูแลตัวหลังการร้อยไหมให้ดีด้วยนะครับ

หลังร้อยไหม ต้องดูแลอย่างไรบ้าง

  1. งดแกะเกาะ นวด บริเวณที่ทำการร้อยไหม

  2. งดการสครับหน้า ล้างหน้าแรงๆ 3-5 วัน

  3. งดอ้าปากกว้าง 1 เดือน

  4. งดการทำ Laser HIFU นวดหน้า 1 เดือน

  5. งดเข้าห้องสตีม ซาวน่า หรืออยู่ในที่ร้อนจัด 2 สัปดาห์

  6. อย่าลืมทานน้ำสะอาด น้ำเปล่าเยอะๆ 2-3 ลิตรต่อวัน ในช่วง 1 อาทิตย์แรก

  7. หลีกเลี่ยงทานของหมักดอง ของดิบ ปลาร้า ช่วง 1 เดือนแรก

  8. อย่าลืมทานยาฆ่าเชื้อที่คุณหมอให้ ทานให้ครบนะครับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 
 

 

คำถามที่พบบ่อย

  • ร้อยไหม คือการใช้ไหมที่มีเงี่ยง ใส่ลงไปในชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่สำคัญในการดึง และ ยกกระชับใบหน้า ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าครับ

  • ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการร้อยไหม คือผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับใบหน้า กรอบหน้าไม่ชัด ผิวหน้าหย่อนคล้อย เหนียงใต้คาง มีปัญหาหน้าแก้มตก รอยพับร่องแก้ม ครับ

  • ร้อยไหม สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณบนใบหน้าครับ ไม่ว่าจะเป็น แก้มล่าง กรอบหน้า เหนียง หน้าแก้ม คิ้ว และ หางตา ครับ

  • จริงๆ แล้วร้อยไหม ถือเป็นการผ่าตัดใบหน้าชนิดหนึ่ง โดยเป็นการผ่าตัดแบบเล็ก หรือ Minimal Invasive ซึ่งถูกออกแบบมา สำหรับ ผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดใหญ่, ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดใหญ่ได้ หรือ ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยง รอยแผลเป็น หรือ ผลข้างเคียง จากการผ่าตัดใหญ่ โดยที่ผลลัพธ์ที่ได้จาการ้อยไหมนั้น ให้ผลลัพะ์ที่เป็นรองการผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิมเพียงเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าการใช้เครื่องยกกระชับครับ

  • ปกติใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อเคสครับ โดยรวมระยะเวลาของการแปะยาชา เรียบร้อยแล้ว

  • โดยหลักการแล้ว หลังกการร้อยไหม แทบจะไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตได้เกือบตามปกติครับ เพราะการร้อยไหมที่ถูกต้องจะมีแผลขนาดเล็กมาก และแผลถูกซ่อนไม่ให้ปรากฎบนใบหน้า ในผู้ป่วยบางรายอาจมาีอาการบวมหลังทำบ้างเล็กน้อยครับ โดยส่วนมากอาการบวมใต้ผิว มักมีอาการประมาณ 7-10 วันครับ

  • โดยปกติระยะเวลาของผลลัพธ์ของการร้อยไหม จะอยู่ได้นานระหว่าง 1 ถึง 3 ปี โดยขึ้นอยู่กับ ชนิดของไหม ชั้นผิวที่ทำการร้อยไหม ปัญหาของใบหน้า จำนวนเส้นไหม ครับ โดยถ้าทำการร้อยไหมที่ถูกชั้นผิว ใช้ไหมขนาดใหญ่ จำนวนเส้นพอเหมาะ ก็จะสามารถคงระยะผลลัพธ์ได้อย่้างยาวนานครับ

ร้อยไหม กับ Thermage ,Ultraformer เลือกทำอะไรดี

หมอเชื่อว่า หลายๆคนอาจลังเลว่า จะทำ ร้อยไหม หรือ Thermage หรือ Ultraformer ดี หมอขอแนะนำดังนี้ครับ

  1. ถ้าคุณมีปัญหาหลักคือ ใบหน้าขาดความยกกระชับ ใบหน้าดูมีอายุ อันเนื่องมาจากโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป หมอขอแนะนำให้ปรึกษาเกี่ยวกับการร้อยไหมปรับรูปหน้า ก่อนครับ เพราะการร้อยไหมคุณหมอจะสามารถใช้ไหมที่มีเงี่ยงไหมที่แข็งแรง ในการปรับโครงสร้างใบหน้า และดึงกล้ามเนื้อใบหน้าได้มีประสิทธิภาพมากกว่า กลุ่มเครื่องยกกระชับ โดยทั้งนี้คุณจะต้องไม่มีโรคประจำตัว หรือความเสี่ยงที่เป็นข้อห้ามของการร้อยไหมครับ

  2. ถ้าคุณมีข้อควรระวัง หรือข้อห้าม หรือมีภาวะเสี่ยงที่ไม่เหมาะกับการทำหัตถการร้อยไหม หมอจะแนะนำการใช้เครื่องยกกระชับที่เป็นเครื่องคลื่นเสียง Ultrasound ที่ส่งพลัังานยกกล้ามเนื้อ SMAS ทดแทนเช่นเครื่อง Ultraformer III ครับ

  3. ส่วนการใช้เครื่องยกกระชับเช่น Thermage หมอแนะนำให้ทำภายหลังการทำร้อยไหมประมาณ 6-8 เดือน เพื่อช่วยในการกระชั้นชั้นผิวด้านนอก ช่วยให้ผลลัพธ์ในการปรับรุปหน้าชัดเจนมากขึ้นนั่นเองครับ

แต่ไม่ต้องกังวลไป ส่งรูป และ คำถาม ที่นี่ หมอช่วยประเมินให้เองครับ

 
 
 

 

จองคิวปรึกษาคุณหมอ

DISCOVER YOUR ELEGANCE

ค้นพบความสง่างามในตัวคุณ จองคิวเพื่อพบคุณหมอของเราตอนนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สาขาบางนา โทร 0928576683

สาขาทองหล่อ โทร 0989767698

 
 

 

คุณหมอแนะนำให้อ่านต่อ

ไหม MINT Lift คืออะไร

> อ่านเพิ่มเติม

Thermage FLX ดีอย่างไร

> อ่านเพิ่มเติม

กรอบหน้าชัด Ultraformer III

> อ่านเพิ่มเติม